bnn.in.th จำหน่ายสินค้า Power Supply พาวเวอร์ซัพพลาย ที่เน้นใช้งานคุ้มค่า ไปจนถึงสายโอเวอร์คล็อค ที่ตรงตามความต้องการ สำหรับคอมพิวเตอร์ประกอบ จากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ ราคาสุดคุ้ม ที่มีให้เลือกตรงกับความต้องการของคุณ
bnn.in.th จำหน่ายสินค้า Power Supply พาวเวอร์ซัพพลาย ที่เน้นใช้งานคุ้มค่า ไปจนถึงสายโอเวอร์คล็อค ที่ตรงตามความต้องการ สำหรับคอมพิวเตอร์ประกอบ จากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ ราคาสุดคุ้ม ที่มีให้เลือกตรงกับความต้องการของคุณ
149 รายการ
Power Supply (พาวเวอร์ซัพพลาย) คือตัวจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชิ้นอื่นๆ ให้ทำงานผ่านทางเมนบอร์ด ด้วยการแปลงจากไฟบ้านที่เป็นกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) ขนาด 220V เป็นกระแสไฟฟ้าแบบตรง (DC) ที่เหมาะกับคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น 3V, 5V หรือ 12V ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนภายในของคอมพิวเตอร์ ทั้งการ์ดจอ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น ดังนั้นการเลือกซื้อ Power Supply ที่มีคุณภาพดี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณให้ทำงานได้เต็มที่มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
การหาข้อมูลและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พาวเวอร์ซัพพลาย ของแต่ละแบรนด์ให้เข้าใจ จะช่วยให้ไม่เสียเวลาและเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อไปเลือกซื้อพาวเวอร์ซัพพลายที่เหมาะกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งการจะเลือกซื้อ Power Supply ให้ได้ของมีคุณภาพและมีมาตรฐานควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
การจะเลือกสิ่งของอะไรก็ตามแต่ การเลือกผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือและเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ย่อมเป็นข้อแรกๆ ที่หลายคนควรทำ ยิ่งเป็นอุปกรณ์ไอทีอย่างชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ด้วยแล้ว ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะได้ของที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานแล้ว ยังการันตีเรื่องของความปลอดภัยและบริการหลังการขายอีกด้วย โดยแบรนด์ผู้ผลิตพาวเวอร์ซัพพลายที่น่าเชื่อถือได้ในท้องตลาดนั้นมีให้เลือกมากมาย อาทิ ASUS, GIGABYTE, MSI เป็นต้น
หลังจากที่ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ที่จำหน่ายพาวเวอร์ซัพพลายที่น่าเชื่อถือได้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ ประเภทของพาวเวอร์ซัพพลายที่เหมาะกับคอมพิวเตอร์ของเรา เพราะนอกจากจะเกิดความคุ้มค่าแล้วยังสามารถดึงศักยภาพของพาวเวอร์ซัพพลายมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย โดยพาวเวอร์ซัพพลายสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้
Full - Modular
Power Supply แบบ Full Modular เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ไม่มีสายเคเบิลติดอยู่กับตัวเครื่อง สามารถที่จะใส่และถอดสายเก็บได้ทุกเส้น โดยข้อดีของ Power Supply แบบ Full Modular ก็คือ สามารถเลือกเคสได้อย่างอิสระตามความชื่นชอบและเหมาะสมกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
Semi - Modular
Semi - Modular คือพาวเวอร์ซัพพลายที่มีความคล้ายกับ Full Modular เพียงแต่จะมีช่องสำหรับเสียบสายเพิ่มเติมเข้ามา ในกรณีที่อยากจะเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานฟังก์ชันเสริม แต่ไม่อยากใช้อุปกรณ์มากชิ้นนั่นเอง
NON - Modular
NON - Modular คือ Power Supply ที่มีสายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ติดตั้งมากับเครื่องโดยตรง ไม่สามารถที่จะถอดออกหรือเปลี่ยนสายได้ ซึ่งข้อดีของพาวเวอร์ซัพพลายแบบ NON - Modular นั้นก็คือ มีราคาที่ถูกกว่าพาวเวอร์ซัพพลายประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Power Supply ที่ตอบโจทย์แต่มีงบประมาณจำกัดนั่นเอง
หมายเหตุ : รูปภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างในการประกอบคำอธิบาย
นอกจากคำนึงถึงแบรนด์และประเภทของ Power Supply แล้ว ขนาดความจุของกำลังไฟภายในตัว Power Supply ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เพราะต้องเลือกขนาดของ Power Supply ให้มีกำลังจ่ายไฟที่เพียงพอต่อการจ่ายไฟไปยังชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในอื่นๆ ได้ทั้งหมด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแนะนำว่าควรเลือกซื้อพาวเวอร์ซัพพลายที่มีความจุกำลังไฟไม่ต่ำกว่า 400 วัตต์ เพื่อให้สามารถแปลงกระแสไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ของคุณว่ามีสเปกแบบไหน หากมีสเปกสูง การใช้ Power Supply ที่มีขนาดความจุ 400 อาจไม่เพียงพอ ดังนั้น ก่อนซื้อควรคำนวณและตรวจเช็กสเปกของคอมพิวเตอร์เสียก่อน เพื่อประเมินขนาดกำลังไฟที่ต้องใช้ให้เพียงพอกับคอมพิวเตอร์นั่นเอง
เพราะพาวเวอร์ซัพพลายเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนอื่นๆ ภายในคอมพิวเตอร์ จึงทำให้ตัว Power Supply ต้องทำงานหนัก จนอาจทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ การมีพัดลมระบายความร้อนเพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในเครื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะหากมีความร้อนสูงเกินไป อาจทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในเสียหายและชำรุดได้ ดังนั้นการเลือกพาวเวอร์ซัพพลายที่มีพัดลมระบายความร้อนติดตั้งมาด้วย 2- 3 เครื่อง เป็นสิ่งที่ควรทำ หากไม่อยากเปลี่ยน Power Supply หรืออุปกรณ์ส่วนอื่นบ่อยๆ หรือหาก Power Supply ที่ใช้อยู่ไม่มีพัดลมระบายความร้อนติดมาด้วย การใช้พัดลมตั้งพื้นขนาดใหญ่ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
มาตรฐาน 80 Plus ของ Power Supply มีความสำคัญอย่างไร แบ่งสีอะไรบ้าง (H2)
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การแปลงกระแสไฟฟ้าสลับเป็นกระแสไฟฟ้าแบบตรง ไม่สามารถทำได้แบบ 100% ซึ่งมาตรฐาน 80 หรือ 80+ นี้จะเข้ามาช่วยให้ Power Supply ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ 80% ขึ้นไป โดยมาตรฐาน 80 Pluse นี้ สามารถแบ่งได้ถึง 6 ระดับ ดังนี้
หมายเหตุ : รูปภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างในการประกอบคำอธิบาย
80 Plus สีขาว เป็น Power Supply ราคาถูกที่สุด ที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่โหลดตลอด 3 ช่วง ซึ่งต้องทดสอบกับ PSU ที่ใช้ไฟฟ้า AC ในช่วง 110V เท่านั้น เพื่อดูว่าการโหลดของกระแสไฟฟ้าสามารถโหลดได้ตามที่กำหนดหรือไม่ หากเกิน 80% จะถือว่าผ่านการทดสอบ
Power Supply 80 Plus Bronze สีทองแดง เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ผ่านการทดสอบ 115V Internal Nonredundant และ 230V Internal Nonredundant โดยการทดสอบ 230V Internal Nonredundant มีผลดังนี้
โหลดครั้งที่ 1 20% จะต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 81%
โหลดครั้งที่ 2 50% จะต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 85%
โหลดครั้งที่ 3 100% จะต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 81%
Power Supply สีเงิน ที่ผ่านการทดลองไฟฟ้าทั้ง 3 รูปแบบด้วยการทดสอบ 230V Internal Nonredundant ซึ่งมีผลดังต่อไปนี้
โหลดครั้งที่ 1 20% ต้องมีกระแสไฟฟ้าเกิน 85%
โหลดครั้งที่ 2 50% ต้องมีกระแสไฟฟ้าเกิน 89%
โหลดครั้งที่ 3 100% ต้องมีกระแสไฟฟ้าเกิน 85%
Power Supply ที่ผ่านการทดลองไฟฟ้า 3 รูปแบบ ด้วยการทดสอบ 230V Internal Nonredundant และมีผลดังต่อไปนี้
โหลดที่ 20% กระแสไฟฟ้าที่ต้องได้ 88%
โหลดที่ 50% กระแสไฟฟ้าที่ต้องได้ 92%
โหลดที่ 100% กระแสไฟฟ้าที่ต้องได้ 88%
Power Supply แพลตทินัม ที่ผ่านการทดสอบไฟฟ้า 3 รูปแบบ ด้วยการทดสอบแบบ 230V Internal Nonredundant ซึ่งจะต้องมีผลลัพธ์ดังนี้
โหลดที่ 20% ต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 90%
โหลดที่ 50% ต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 94%
โหลดที่ 100% ต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 91%
พาวเวอร์ซัพพลายตัวท็อปที่มีราคาสูงและผ่านการทดสอบแบบ 230V Internal Nonredundant และจะต้องมีผลดังต่อไปนี้
โหลดที่ 10% ต้องได้ไฟฟ้าเกิน 90%
โหลดที่ 20% ต้องได้ไฟฟ้าเกิน 94%
โหลดที่ 50% ต้องได้ไฟฟ้าเกิน 96%
โหลดที่ 100% ต้องได้ไฟฟ้าเกิน 91%
ซึ่งจะเห็นได้ว่า นอกจากเลือกแบรนด์ผู้ผลิตที่เชื่อถือได้แล้ว การเลือกประเภทของ Power Supply ให้เหมาะสมกับคอมพิวเตอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังต้องดูรายละเอียดของตัวจ่ายไฟให้ตรงกับสเปกคอมพิวเตอร์ของเราด้วย ซึ่งเราขอแนะนำ Power Supply ที่ขายดี และรุ่นที่น่าใช้ ดังนี้
Power Supply รุ่นขายดีที่เราขอแนะนำคือรุ่น Thermaltake TR2 S Series ตัวนี้จะเป็น Power Supply แบบ 80 Plus White ที่มีรูปแบบการจ่ายไฟแบบ NON - Modular ที่มีส่วนประกอบคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยให้ประหยัดพลังงานมากถึง 86% และมีกำลังการจ่ายไฟ 650 W มาในราคา 1,890 บาท และรับประกันสินค้า 3 ปี
Power Supply รุ่นที่น่าใช้ มีดังนี้
หมายเหตุ : รูปภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างในการประกอบคำอธิบาย
พาวเวอร์ซัพพลาย รุ่น Thermaltake TR2 S 750 Watts ตัวนี้จะเป็น Power Supply แบบ 80 Plus White และมีรูปแบบการจ่ายไฟแบบ NON - Modular ที่มีกำลังไฟมากถึง 750W โดยเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่เน้นความคุ้มค่าและความประหยัด ซึ่งพาวเวอร์ซัพพลายตัวนี้จะไม่สามารถถอดสายไฟได้ มาในราคา 1,990 บาท โดยรับประกันสินค้า 3 ปีเต็ม
AeroCool Superb เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่มีประสิทธิภาพการจ่ายไฟ 78% โดยเป็นโครงสร้างแบบ NON - Modular มีพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มม. ติดตั้งมาให้ด้วยในตัว เรียกได้ว่าเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่เน้นความคุ้มค่าและการใช้งาน เนื่องจากมีราคาเพียง 790 บาท พร้อมรับประกันสินค้า 3 ปีเต็ม ทั้งนี้ประกันสินค้าจะไม่ครอบคลุมในกรณีที่นำไปใช้ทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล
ซึ่งทั้งหมดนี้คือคำตอบเกี่ยวกับ Power Supply (พาวเวอร์ซัพพลาย) ที่ทางเราได้รวบรวมเอามาไว้ในบทความนี้ หวังว่าผู้ที่กำลังค้นหาและศึกษาข้อมูลของ Power Supply อยู่จะเข้าใจเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการและการทำงานของ Power Supply มากขึ้น ทั้งนี้การเลือกซื้อ Power Supply แต่ละประเภทขึ้นอยู่กับสเปกคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ หากใครที่กำลังมองหา Power Supply อยู่ละก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่นี่