bnn.in.th จำหน่ายสินค้า Power Supply พาวเวอร์ซัพพลาย ที่เน้นใช้งานคุ้มค่า ไปจนถึงสายโอเวอร์คล็อค ที่ตรงตามความต้องการ สำหรับคอมพิวเตอร์ประกอบ จากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ ราคาสุดคุ้ม ที่มีให้เลือกตรงกับความต้องการของคุณ
bnn.in.th จำหน่ายสินค้า Power Supply พาวเวอร์ซัพพลาย ที่เน้นใช้งานคุ้มค่า ไปจนถึงสายโอเวอร์คล็อค ที่ตรงตามความต้องการ สำหรับคอมพิวเตอร์ประกอบ จากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ ราคาสุดคุ้ม ที่มีให้เลือกตรงกับความต้องการของคุณ
Power Supply (พาวเวอร์ซัพพลาย) คือตัวจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชิ้นอื่นๆ ให้ทำงานผ่านทางเมนบอร์ด ด้วยการแปลงจากไฟบ้านที่เป็นกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) ขนาด 220V เป็นกระแสไฟฟ้าแบบตรง (DC) ที่เหมาะกับคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น 3V, 5V หรือ 12V ขึ้นอยู่กับชิ้นส่วนภายในของคอมพิวเตอร์ ทั้งการ์ดจอ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น ดังนั้นการเลือกซื้อ Power Supply ที่มีคุณภาพดี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณให้ทำงานได้เต็มที่มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
การหาข้อมูลและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พาวเวอร์ซัพพลาย ของแต่ละแบรนด์ให้เข้าใจ จะช่วยให้ไม่เสียเวลาและเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อไปเลือกซื้อพาวเวอร์ซัพพลายที่เหมาะกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งการจะเลือกซื้อ Power Supply ให้ได้ของมีคุณภาพและมีมาตรฐานควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
การจะเลือกสิ่งของอะไรก็ตามแต่ การเลือกผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือและเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ย่อมเป็นข้อแรกๆ ที่หลายคนควรทำ ยิ่งเป็นอุปกรณ์ไอทีอย่างชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ด้วยแล้ว ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะได้ของที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานแล้ว ยังการันตีเรื่องของความปลอดภัยและบริการหลังการขายอีกด้วย โดยแบรนด์ผู้ผลิตพาวเวอร์ซัพพลายที่น่าเชื่อถือได้ในท้องตลาดนั้นมีให้เลือกมากมาย อาทิ ASUS, GIGABYTE, MSI เป็นต้น
หลังจากที่ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ที่จำหน่ายพาวเวอร์ซัพพลายที่น่าเชื่อถือได้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ ประเภทของพาวเวอร์ซัพพลายที่เหมาะกับคอมพิวเตอร์ของเรา เพราะนอกจากจะเกิดความคุ้มค่าแล้วยังสามารถดึงศักยภาพของพาวเวอร์ซัพพลายมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย โดยพาวเวอร์ซัพพลายสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้
Full - Modular
Power Supply แบบ Full Modular เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ไม่มีสายเคเบิลติดอยู่กับตัวเครื่อง สามารถที่จะใส่และถอดสายเก็บได้ทุกเส้น โดยข้อดีของ Power Supply แบบ Full Modular ก็คือ สามารถเลือกเคสได้อย่างอิสระตามความชื่นชอบและเหมาะสมกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
Semi - Modular
Semi - Modular คือพาวเวอร์ซัพพลายที่มีความคล้ายกับ Full Modular เพียงแต่จะมีช่องสำหรับเสียบสายเพิ่มเติมเข้ามา ในกรณีที่อยากจะเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานฟังก์ชันเสริม แต่ไม่อยากใช้อุปกรณ์มากชิ้นนั่นเอง
NON - Modular
NON - Modular คือ Power Supply ที่มีสายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ติดตั้งมากับเครื่องโดยตรง ไม่สามารถที่จะถอดออกหรือเปลี่ยนสายได้ ซึ่งข้อดีของพาวเวอร์ซัพพลายแบบ NON - Modular นั้นก็คือ มีราคาที่ถูกกว่าพาวเวอร์ซัพพลายประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Power Supply ที่ตอบโจทย์แต่มีงบประมาณจำกัดนั่นเอง
หมายเหตุ : รูปภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างในการประกอบคำอธิบาย
นอกจากคำนึงถึงแบรนด์และประเภทของ Power Supply แล้ว ขนาดความจุของกำลังไฟภายในตัว Power Supply ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เพราะต้องเลือกขนาดของ Power Supply ให้มีกำลังจ่ายไฟที่เพียงพอต่อการจ่ายไฟไปยังชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในอื่นๆ ได้ทั้งหมด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแนะนำว่าควรเลือกซื้อพาวเวอร์ซัพพลายที่มีความจุกำลังไฟไม่ต่ำกว่า 400 วัตต์ เพื่อให้สามารถแปลงกระแสไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ของคุณว่ามีสเปกแบบไหน หากมีสเปกสูง การใช้ Power Supply ที่มีขนาดความจุ 400 อาจไม่เพียงพอ ดังนั้น ก่อนซื้อควรคำนวณและตรวจเช็กสเปกของคอมพิวเตอร์เสียก่อน เพื่อประเมินขนาดกำลังไฟที่ต้องใช้ให้เพียงพอกับคอมพิวเตอร์นั่นเอง
เพราะพาวเวอร์ซัพพลายเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนอื่นๆ ภายในคอมพิวเตอร์ จึงทำให้ตัว Power Supply ต้องทำงานหนัก จนอาจทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ การมีพัดลมระบายความร้อนเพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในเครื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะหากมีความร้อนสูงเกินไป อาจทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในเสียหายและชำรุดได้ ดังนั้นการเลือกพาวเวอร์ซัพพลายที่มีพัดลมระบายความร้อนติดตั้งมาด้วย 2- 3 เครื่อง เป็นสิ่งที่ควรทำ หากไม่อยากเปลี่ยน Power Supply หรืออุปกรณ์ส่วนอื่นบ่อยๆ หรือหาก Power Supply ที่ใช้อยู่ไม่มีพัดลมระบายความร้อนติดมาด้วย การใช้พัดลมตั้งพื้นขนาดใหญ่ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
มาตรฐาน 80 Plus ของ Power Supply มีความสำคัญอย่างไร แบ่งสีอะไรบ้าง (H2)
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การแปลงกระแสไฟฟ้าสลับเป็นกระแสไฟฟ้าแบบตรง ไม่สามารถทำได้แบบ 100% ซึ่งมาตรฐาน 80 หรือ 80+ นี้จะเข้ามาช่วยให้ Power Supply ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ 80% ขึ้นไป โดยมาตรฐาน 80 Pluse นี้ สามารถแบ่งได้ถึง 6 ระดับ ดังนี้
หมายเหตุ : รูปภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างในการประกอบคำอธิบาย
80 Plus สีขาว เป็น Power Supply ราคาถูกที่สุด ที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่โหลดตลอด 3 ช่วง ซึ่งต้องทดสอบกับ PSU ที่ใช้ไฟฟ้า AC ในช่วง 110V เท่านั้น เพื่อดูว่าการโหลดของกระแสไฟฟ้าสามารถโหลดได้ตามที่กำหนดหรือไม่ หากเกิน 80% จะถือว่าผ่านการทดสอบ
Power Supply 80 Plus Bronze สีทองแดง เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ผ่านการทดสอบ 115V Internal Nonredundant และ 230V Internal Nonredundant โดยการทดสอบ 230V Internal Nonredundant มีผลดังนี้
โหลดครั้งที่ 1 20% จะต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 81%
โหลดครั้งที่ 2 50% จะต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 85%
โหลดครั้งที่ 3 100% จะต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 81%
Power Supply สีเงิน ที่ผ่านการทดลองไฟฟ้าทั้ง 3 รูปแบบด้วยการทดสอบ 230V Internal Nonredundant ซึ่งมีผลดังต่อไปนี้
โหลดครั้งที่ 1 20% ต้องมีกระแสไฟฟ้าเกิน 85%
โหลดครั้งที่ 2 50% ต้องมีกระแสไฟฟ้าเกิน 89%
โหลดครั้งที่ 3 100% ต้องมีกระแสไฟฟ้าเกิน 85%
Power Supply ที่ผ่านการทดลองไฟฟ้า 3 รูปแบบ ด้วยการทดสอบ 230V Internal Nonredundant และมีผลดังต่อไปนี้
โหลดที่ 20% กระแสไฟฟ้าที่ต้องได้ 88%
โหลดที่ 50% กระแสไฟฟ้าที่ต้องได้ 92%
โหลดที่ 100% กระแสไฟฟ้าที่ต้องได้ 88%
Power Supply แพลตทินัม ที่ผ่านการทดสอบไฟฟ้า 3 รูปแบบ ด้วยการทดสอบแบบ 230V Internal Nonredundant ซึ่งจะต้องมีผลลัพธ์ดังนี้
โหลดที่ 20% ต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 90%
โหลดที่ 50% ต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 94%
โหลดที่ 100% ต้องได้กระแสไฟฟ้าเกิน 91%
พาวเวอร์ซัพพลายตัวท็อปที่มีราคาสูงและผ่านการทดสอบแบบ 230V Internal Nonredundant และจะต้องมีผลดังต่อไปนี้
โหลดที่ 10% ต้องได้ไฟฟ้าเกิน 90%
โหลดที่ 20% ต้องได้ไฟฟ้าเกิน 94%
โหลดที่ 50% ต้องได้ไฟฟ้าเกิน 96%
โหลดที่ 100% ต้องได้ไฟฟ้าเกิน 91%
ซึ่งจะเห็นได้ว่า นอกจากเลือกแบรนด์ผู้ผลิตที่เชื่อถือได้แล้ว การเลือกประเภทของ Power Supply ให้เหมาะสมกับคอมพิวเตอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังต้องดูรายละเอียดของตัวจ่ายไฟให้ตรงกับสเปกคอมพิวเตอร์ของเราด้วย ซึ่งเราขอแนะนำ Power Supply ที่ขายดี และรุ่นที่น่าใช้ ดังนี้
Power Supply รุ่นขายดีที่เราขอแนะนำคือรุ่น Thermaltake TR2 S Series ตัวนี้จะเป็น Power Supply แบบ 80 Plus White ที่มีรูปแบบการจ่ายไฟแบบ NON - Modular ที่มีส่วนประกอบคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยให้ประหยัดพลังงานมากถึง 86% และมีกำลังการจ่ายไฟ 650 W มาในราคา 1,890 บาท และรับประกันสินค้า 3 ปี
Power Supply รุ่นที่น่าใช้ มีดังนี้
หมายเหตุ : รูปภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างในการประกอบคำอธิบาย
พาวเวอร์ซัพพลาย รุ่น Thermaltake TR2 S 750 Watts ตัวนี้จะเป็น Power Supply แบบ 80 Plus White และมีรูปแบบการจ่ายไฟแบบ NON - Modular ที่มีกำลังไฟมากถึง 750W โดยเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่เน้นความคุ้มค่าและความประหยัด ซึ่งพาวเวอร์ซัพพลายตัวนี้จะไม่สามารถถอดสายไฟได้ มาในราคา 1,990 บาท โดยรับประกันสินค้า 3 ปีเต็ม
AeroCool Superb เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่มีประสิทธิภาพการจ่ายไฟ 78% โดยเป็นโครงสร้างแบบ NON - Modular มีพัดลมระบายความร้อนขนาด 120 มม. ติดตั้งมาให้ด้วยในตัว เรียกได้ว่าเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่เน้นความคุ้มค่าและการใช้งาน เนื่องจากมีราคาเพียง 790 บาท พร้อมรับประกันสินค้า 3 ปีเต็ม ทั้งนี้ประกันสินค้าจะไม่ครอบคลุมในกรณีที่นำไปใช้ทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล
ซึ่งทั้งหมดนี้คือคำตอบเกี่ยวกับ Power Supply (พาวเวอร์ซัพพลาย) ที่ทางเราได้รวบรวมเอามาไว้ในบทความนี้ หวังว่าผู้ที่กำลังค้นหาและศึกษาข้อมูลของ Power Supply อยู่จะเข้าใจเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการและการทำงานของ Power Supply มากขึ้น ทั้งนี้การเลือกซื้อ Power Supply แต่ละประเภทขึ้นอยู่กับสเปกคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ หากใครที่กำลังมองหา Power Supply อยู่ละก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่นี่